สถาบันวิจัยชั้นนำด้านไทยคดีศึกษาของประเทศ
ที่เชื่อมโยงกับภูมิภาคอาเซียน
และภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก
สถาบันวิจัยชั้นนำด้านไทยคดีศึกษาของประเทศ
ที่เชื่อมโยงกับภูมิภาคอาเซียน
และภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก
มุ่งสร้างงานวิจัยให้เป็นเลิศ
เผยแพร่ความรู้สู่สังคม
ทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม
โดยนักวิจัยที่ศึกษาและเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ การท่องเที่ยว ฯลฯ ตามความสนใจและเชี่ยวชาญเฉพาะบุคคล โดยผลิตงานวิจัยที่สอดคล้องกับนโยบายและทิศทางการพัฒนาระดับมหาวิทยาลัยและระดับชาติ ซึ่งส่งผลต่อความก้าวหน้าทางวิชาการ สามารถนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาต่อสังคมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว นอกจากนี้ยังส่งเสริมการวิจัยที่มีการเชื่อมโยงกันในลักษณะแผนงานวิจัยและบูรณาการเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการวิจัยของชาติ และบูรณาการงานวิจัยเข้ากับงานบริการวิชาการและทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม
มีที่มาจากนักวิจัยนำสิ่งที่ปรากฏอยู่ในสังคมมาศึกษาวิจัย และนำสิ่งที่ได้จากการวิจัยนั้นมาเผยแพร่เป็นองค์ความรู้เพื่อให้บริการวิชาการสู่สังคมและชุมชน กิจกรรมให้บริการวิชาการแก่สังคมที่ดำเนินการมีหลายรูปแบบ อาทิ จัดสัมนนาทางวิชาการ โครงการฝึกอบรม การเสวนาทางวิชาการ การประชุมวิชาการ การทัศนศึกษา "ไทยคดีสัญจร" และการจัดพิมพ์เอกสารทางวิชาการ เป็นต้น
เพื่อตอบสนองต่อนโยบายการส่งเสริมบทบาทของสถาบันในงานด้านศิลปะและวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยและในระดับอุดมศึกษา โดยการบูรณาการเข้ากับพันธกิจด้านการวิจัย และการบริการวิชาการแก่สังคม มีรูปแบบกิจกรรมอย่างหลากหลาย อาทิ กิจกรรมที่ฟื้นฟู อนุรักษ์ สืบสานประเพณีโบราณที่สำคัญ เผยแพร่ ส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมเอกลักษณ์ของชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาเป็นองค์ความรู้เผยแพร่ต่อสังคมต่อไป รวมถึงการจัดโครงการทัศนศึกษาที่ให้ความรู้เรื่องศิลปวัฒนธรรมภายในประเทศไทยและประชาคมอาเซียน
เป็นวารสารทางวิชาการ ราย 6 เดือน ของสถาบันไทยคดีศึกษา มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าในระดับอุดมศึกษา และเพื่อเผยแพร่บทความวิจัยและบทความวิชาการเกี่ยวกับไทยศึกษาในมิติทางด้านสังคมศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์ ตลอดจนประเด็นร่วมสมัยที่น่าสนใจ บทความหรือข้อคิดเห็นต่าง ๆ ที่ปรากฏในวารสารนี้ จะต้องผ่านกระบวนการการพิจารณาจากกองบรรณาธิการและผ่านกลั่นกรองคุณภาพจากผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่เกี่ยวข้อง แต่รายละเอียดและเนื้อหาที่ปรากฏ ถือเป็นความคิดเห็นส่วนตัวและความรับผิดชอบเฉพาะของผู้เขียน โดยไม่จำเป็นต้องตรงกับความคิดเห็นหรือเป็นความรับผิดชอบของคณะบรรณาธิการผู้จัดทำ
งานบริการวิชาการ สถาบันไทยคดีศึกษา จัดทำ E-Book องค์ความรู้และการสังเคราะห์ความรู้จากงานวิจัย ชุดที่ 1 เพื่อเผยแพร่ตามแผนยุทธศาสตร์
โดยมีเนื้อหา ทั้งหมด 10 เรื่องได้แก่
1.สัญลักษณ์และพุทธธรรมในบทพระราชนิพนธ์ เรื่อง พระมหาชนก
2.ความต้องการของชุมชนในการจัดการท่องเที่ยวเชิงอาสาสมัคร : กรณีศึกษาชุมชนมอญบางกระดี่
3.พระพุทธปฏิมาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสร้าง: คติการสร้าง และรูปแบบศิลปะ
4.การสำรวจสถานะความรู้ด้านประวัติศาสตร์ศิลปะไทยที่เกี่ยวข้องกับศิลปะพม่า – มอญ
5.พระมหากษัตริย์แห่งสังคม “เมืองน้ำ”: จาก คติจารีตถึงการควบคุมบริหารจัดการน้ำภายใต้บริบท “พระราชอำนาจนำ”
6.การศึกษาเอกสารนำเที่ยวเพื่อรวบรวมข้อมูลพื้นฐานการท่องเที่ยวของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
7.“มหาเตงดอจี” ภาพจิตรกรรมสะท้อนศิลปะโยเดียในแผ่นดินพม่า:ทัศนะบางประการต่อสภาพปัญหาในปัจจุบันสู่แนวทางการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนในอนาคต
8.มหาโพธิวิหารจำลองในไทยช่วงสมัยพุทธศตวรรษที่ 26: การส่งผ่านรูปแบบทางศิลปกรรมจากอินเดียและการเคลื่อนคลายของความหมายเชิงสัญลักษณ์
9.เมื่อ “ไทย” คือห้องทำงานใหม่: ประสบการณ์และความรู้สึกจากนักวิจัยรุ่นใหม่ “สถาบันวิจัยชั้นนำด้านไทยคดีศึกษาของประเทศ ที่เชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก”
10.แนวทางในการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติในภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคมไทย: ศึกษาและวิเคราะห์จากงานวิจัยในช่วงพ.ศ. 2545-2554 และกรณีตัวอย่างแห่งความสำเร็จ
หากท่านสนใจอ่านผลงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ สามารถติดต่อได้ที่งานบริการวิชาการ สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โทร. 0 2613 3203-5 ต่อ 19, 33
วารสารไทยคดีศึกษา ปีที่ 17 ฉบับที่ 1 เล่มนี้ มีเนื้อหาโดดเด่นในแง่องค์ความรู้ จาก “ไทย” สู่ “สากล” ไม่ว่าจะเป็น การศึกษาภาพจิตรกรรมในหนังสือสมุดไทยภาคใต้ที่สะท้อนภาพท้องถิ่นและความเปลี่ยนแปลงจากกระแสภายนอกในช่วงพุทธศตวรรษที่ 25 เรื่องประติมากรรมพระศรีอริยเมตไตรยในแง่มุมประวัติศาสตร์ศิลปะและประติมานวิทยา (Iconography) งานประวัติศาสตร์นิพนธ์ (Historiography) ในมุมมองแบบผู้หญิง ที่เป็นแนวทางใหม่ในการวิเคราะห์ประวัติศาสตร์ งานศึกษาเพลงไทยร่วมสมัยในมุมมอง สัญวิทยา (Semiology) และมิติสากลว่าด้วยการตั้งคำถามกับแนวคิด พหุนิยมทางวัฒนธรรม (Multiculturalism) ในวันที่โลกทั้งโลกมีแนวโน้ม “หันขวา” (Turn right) มากขึ้น
สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดทำรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าของสถาบันฯ ประกอบด้วยผลงานวิจัย โครงการบริการวิชาการ โครงการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม รวมทั้งกิจกรรมของผู้บริหารและบุคลากรสถาบันฯ ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา